loading...

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คิวบาสิ้น"ฟิเดล คาสโตร"อดีตผู้นำปฏิวัติ-อดีตประธานาธิบดี

03:14


ภาพเอเอฟพี

26 พ.ย. 59 - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดีและผู้นำการปฏิวัติสังคมนิยมคิวบา ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันศุกร์ (25 พ.ย.) รวมอายุได้ 90 ปี

ฟีเดล คาสโตร เกิด13 สิงหาคม ค.ศ. 1926 เป็นนักปฏิวัติและนักการเมืองคิวบา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกฯคิวบาตั้งแต่ ค.ศ. 1959 ถึง 1976 และประธานาธิบดีตั้งแต่ ค.ศ. 1976 ถึง 2008 เขายังดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์คิวบานับแต่ก่อตั้งพรรคใน ค.ศ. 1961

loading...
กระทั่ง ค.ศ. 2011 เขามีแนวคิดทางการเมืองแบบมากซ์-เลนิน ภายใต้การปกครองประเทศของเขา สาธารณรัฐคิวบาได้เปลี่ยนเป็นรัฐสังคมนิยมพรรคการเมืองเดียว โดยยึดอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเป็นของรัฐและมีการปฏิรูปสังคมไปปฏิบัติในทุกภาคส่วนของสังคม

ฟีเดล คาสโตรเกิดเป็นบุตรนอกกฎหมายของชาวนาร่ำรวยคนหนึ่ง ก่อนจะกลายมาข้องเกี่ยวกับการเมืองต่อต้านจักรวรรดินิยมฝ่ายซ้าย ขณะศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัยฮาวานา และภายหลังนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับกบฏติดอาวุธต่อสู้รัฐบาลฝ่ายขวาในสาธารณรัฐโดมินิกันและโคลัมเบีย เขาดำเนินต่อไปกระทั่งล้มประธานาธิบดีคิวบา ฟุลเคนเซียว บาติสตา ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐอเมริกา และถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้เผด็จการ

โดยก่อนหน้านั้น เขานำการโจมตีติดอาวุธค่ายทหารมอนคาดาที่ล้มเหลวใน ค.ศ. 1953 ถูกจำคุกหนึ่งปี จากนั้น เขาเดินทางไปยังเม็กซิโก ด้วยความช่วยเหลือของราอุล กัสโตร น้องชาย และเช เกบารา เพื่อน เขารวบรวมกลุ่มนักปฏิวัติชาวคิวบาเป็นขบวนการ 26 กรกฎาคม หลังกลับมายังคิวบาพร้อมกับขบวนการดังกล่าว เขามีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติคิวบา โดยนำสงครามกองโจรต่อกองทัพของบาติสตาอย่างได้ผล และบาติสตาเองต้องลี้ภัยออกนอกประเทศใน ค.ศ. 1959

ไม่นานฟีเดลได้มาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพและนายกรัฐมนตรีตามลำดับ การพัวพันในการล้มบาติสตา เช่นเดียวกับการต้องสงสัยความสัมพันธ์กับผู้นำโซเวียต นิกิตา ครุสชอฟ ทำให้สหรัฐอเมริกาตื่นตระหนก ซีไอเอได้จัดการรุกรานอ่าวหมูใน ค.ศ. 1961 เพื่อล้มรัฐบาลของเขา แต่ล้มเหลว ก่อนเดินหน้าบงการความพยายามลอบสังหารเขาซ้ำอีกและปิดกั้นทางเศรษฐกิจต่อคิวบา เพื่อสนองภัยคุกคามนี้

คาสโตร สร้างพันธมิตรกับสหภาพโซเวียตและอนุญาตให้โซเวียตเก็บอาวุธนิวเคลียร์บนเกาะได้ นำไปสู่เหตุการณ์วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาใน ค.ศ. 1962 โดยรับเอาลัทธิมากซ์-เลนินเป็นอุดมการณ์ชี้นำของเขา ใน ค.ศ. 1961 คาสโตรประกาศลักษณะสังคมนิยมของการปฏิวัติคิวบา และใน ค.ศ. 1965 มาเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เพิ่งตั้งขึ้น ขณะที่พรรคการเมืองอื่นถูกยุบ

จากนั้น เขานำการเปลี่ยนแปลงคิวบาสู่สาธารณรัฐสังคมนิยม ยึดอุตสาหกรรมไปเป็นของรัฐและนำสาธารณสุขถ้วนหน้าและการศึกษาแบบให้เปล่า เช่นเดียวกับปราบปรามการต่อต้านภายใน คาสโตรเป็นผู้สนับสนุนหลักการร่วมมือระหว่างประเทศที่กระตือรือร้น เขาได้ริเริ่มคณะแพทย์คิวบาผู้ซึ่งทำงานทั่วโลกกำลังพัฒนา และช่วยเหลือกลุ่มสังคมนิยมปฏิวัติต่างประเทศหลายกลุ่มด้วยหวังว่าจะโค่นทุนนิยมโลก

ใน ค.ศ. 1976 เขากลายมาเป็นประธานสภาแห่งรัฐ เช่นเดียวกับสภารัฐมนตรี ในเวทีระหว่างประเทศ เขาถือตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดนับจาก ค.ศ. 1979 ถึง 1983 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตพันธมิตรหลัก ใน ค.ศ. 1991 คาสโตรได้นำคิวบาเข้าสู่ "ระยะพิเศษ" ทางเศรษฐกิจ จากนั้นก่อนนำพาคิวบาเข้าสู่พันธมิตรโบลิเวียเพื่ออเมริกาใน ค.ศ. 2006 และสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองกับชาติอื่นในละตินอเมริกา ซึ่งเรียกว่า "สายสัมพันธ์ชมพู" ท่ามกลางสุขภาพที่ย่ำแย่ลง ในปีเดียวกัน คาสโตรโอนความรับผิดชอบไปยังรองประธานาธิบดี ราอุล กัสโตร ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อฟีเดลลงจากตำแหน่งใน ค.ศ. 2008

สำหรับ ราอุล คาสโตร ประธานาธิบดีคิวบาคนปัจจุบัน ก็คือน้องชายของ ฟิเดล คาสโตนั่นเอง.

: ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
www.thaipost.net

online