แต่ช่วงศตวรรษที่ 3-5 ซ้ำยังสามารถรอดพ้นจากภัยสู้รบในพื้นที่สุดอันตรายมาได้
เมื่อ 19 มี.ค.60 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวฮือฮา พระพุทธรูปโบราณในอัฟกานิสถาน ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน และถูกฝังซ่อนไว้ใต้ดินเพื่อป้องกันหัวขโมย รวม
ทั้งยังรอดปลอดภัยขณะอยู่ในพื้นที่สู้รบที่อันตรายที่สุดในประเทศอัฟกานิสถาน ในที่สุดได้รับการบูรณะและนำมาประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ในกรุงคาบูล เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้ชมพระพุทธรูปองค์นี้กันแล้ว ขณะที่บรรดานักโบราณคดีคาดว่า มีอายุเก่าแก่และถูกซ่อนไว้ใต้ดินตั้งแต่ช่วงราวศตวรรษที่ 3-5
ข่าวแจ้งว่า พระพุทธรูปโบราณองค์นี้ถูกซ่อนไว้ในชั้นดิน ที่เมืองเมส อัยนัค ห่างจากกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 40 กิโลเมตร โด
ได้ถูกค้นพบเมื่อปี 2555 ขณะที่บริษัทชาวจีนได้เข้ามาทำเหมืองแร่ทองแดงในบริเวณดังกล่าว และได้ขุดพบพระพุทธรูปโบราณใต้ผืนดินอย่างไม่คาดฝัน โดยบริเวณที่พบพระพุทธรูปโบราณใต้ผืนดินอย่างไม่คาดฝัน โดยบริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ในกลุ่มวิหารโบราณบนพื้นที่กว้างขวาง 4 ตารางกิโลเมตร ในเขตจังหวัดโลการ์ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในอัฟกานิสถาน และปัจจุบันเป็นเขตฐานที่มั่นของกลุ่มตาลีบัน
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยพระพุทธรูปโบราณองค์นี้อยู่บริเวณช่องโพรงในดิน ซึ่งโดยรอบมีการวาดประดับตกแต่งเป็นลวดลายดอกไม้ และเป็นศูนย์กลางของการประกอบพิธีสวดมนต์
ยคาร์โบนารายังกล่าวด้วยความทึ่งว่า การลงสีพระพุทธรูป โดยมีมวยผมสีดำ พระปรางค์สีชมพู และดวงตาสีฟ้า ถือเป็นเทคนิคที่ซับซ้อนอย่างแท้จริงของช่างฝีมือโบราณที่ปั้นพระพุทธรูปองค์นี้.
www.thairath.co.th
By — Unknown
03:40