loading...

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

จับคลังแสง'โกตี๋'! ค้น9จุดเครือข่ายเสื้อแดง ยอมรับเหลือจากเผาเมือง

18:13


ตำรวจ-ทหารสนธิกำลังตรวจค้น 9 จุดเครือข่ายเสื้อแดง ผงะ! พบอาวุธสงครามอื้อ-เอกสารจัดตั้งกองกำลัง สอบเค้น "สมุนโกตี๋" สารภาพอาวุธถูกนำมาซุกซ่อนหลังม็อบเผาเมืองปี 53 และช่วงชุมนุม กปปส. ทีมโฆษก คสช.เผยปฏิบัติการปูพรมค้นสิ่งผิดกฎหมายมาจากบัญชาการของ "บิ๊กตู่" เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัย ยันไม่กระทบปรองดอง แต่แกนนำ นปช.ชี้เปรี้ยงกระทบแน่ ปัดรู้จักโกตี๋อย่ามายัดเยียด!

ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกำลังทหาร ได้ร่วมกันปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด หลังสืบทราบว่ามีการซุกซ่อนอาวุธสงครามเอาไว้จำนวนมาก

ปฏิบัติการนี้เข้าค้นเป้าหมายแรก บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100 ตร.ว. มีนายธีรชัย อุตรวิเชียร อายุ 45 ปี คนสนิทและแนวร่วมของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี พักอาศัยอยู่

จากการตรวจค้นในบ้าน พบสิ่งผิดกฎหมาย 29 รายการ อาทิ ปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก, เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก, ปืนคาร์บิน 1 กระบอก, ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก, กระสุนปืนลูกซอง 160 นัด, กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 4,566 นัด, กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. ซ้อมรบ 8 นัด, กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 220 นัด, กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. 235 นัด, กระสุนปืนขนาด .45 (11 มม.) 189 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 78 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 ซูเปอร์ 33 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. 38 นัด, ปลอกลดเสียง เอ็ม 16 จำนวน 3 อัน, ซองกระสุนปืน 7 ซอง, กล้องสไนเปอร์ 1 อัน, ขาทรายปืน 1 อัน

ลูกระเบิด เอ็ม 79 จำนวน 8 นัด, ลูกระเบิดขว้าง SFG75 จำนวน 1 ลูก, ลูกระเบิดขว้าง RGD5 จำนวน 10 ลูก และเรือนชนวน 16 อัน, ซองปืนพกขนาด 11 มม. 1 ซอง, มีดดาบ 12 เล่ม, เครื่องชอร์ตไฟฟ้า 1 เครื่อง, วิทยุสื่อสาร ว.ดำ 7 เครื่อง, วิทยุสื่อสาร ว.เเดง 1 เครื่อง, พลั่วสนาม 1 อัน, ป้ายทะเบียน จำนวน 2 ป้าย, หมายเลขทะเบียน ภศ 8064 กรุงเทพมหานคร และ กธ 5011 ลพบุรี เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธีรชัยไปดำเนินการสอบสวนทันที

จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 106-19 หมู่บ้านชวนชื่นบรู๊คไซด์ ซอยชวนชื่น 10 ต.บางคูวัด จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนางปาลิดา เรืองสุวรรณ พบเอกสารต้องสงสัยมีลายมือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลัง และใบบันทึกรายการอาวุธของกลุ่มฯ ซีดีเพลงที่อาจจะเข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ เอกสารเนื้อหาคำแถลงการณ์เกี่ยวกับนักรบประชาธิปไตย บัตรประจำตัว นปช. บัตรกลุ่ม นปช.มหาสารคาม รูปถ่ายร่วมกับกลุ่ม นปช. และเอกสารอื่นๆ จำนวนมาก

ปูพรมค้นเครือข่ายแดง

จุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 8 ต.ยางช้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พร้อมควบคุมตัว นายประเทือง อ่อนละมูล แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งจากการตรวจค้นพบเอกสารโรงเรียน นปช. วิทยุสื่อสารแบบพกพา (ICOM) 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเมมโมรีการ์ด 2 อัน ส่วนเป้าหมายจัดที่ 4 เป็นบ้านเลขที่ 8 หมู่ 6 บ้านสามขา ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยจับกุมตัว จ.ส.อ.ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง

นอกจากนี้ ในจุดที่ 5 เจ้าหน้าที่ยังได้บุกเข้าจับกุม นายสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 10/2560 ฐานความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 21/1 ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสุริยศักดิ์ พบแผ่นซีดีกิจกรรมเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง แผ่นตราสัญลักษณ์ นปช.จังหวัดสุรินทร์ อาวุธปืนลูกโม่ .38 ขนาดลำกล้อง 4 นิ้ว 1 กระบอก ไม่มีลูกกระสุน พร้อมเอกสารต่างๆ จึงรวบรวมไปตรวจสอบ

เป้าหมายจุดที่ 6 จับกุมนายบุญส่ง คชประดิษฐ์ แนวร่วมเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ซึ่งจากการนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพัก ยังพบอาวุธปืนยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน ชิ้นส่วนและส่วนควบอาวุธปืนหลายรายการ อาทิ พลุส่องสว่าง และกล้องสไนเปอร์ เอกสารและซีดีกิจกรรม กลุ่ม นปช.ในบ้านพักจำนวนหนึ่ง

เป้าหมายที่ 7 เจ้าหน้าที่บุกไปยังบ้านเลขที่ 119/116 หมู่บ้านสวัสดิการศูนย์การทหารราบ หมู่ 9 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของนายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ ผลการตรวจค้นพบสิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) 8 กระบอก, แมกกาซีน (บีบีกัน) 25 ซอง, อาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. 1 กระบอก, ซองปืนพกสั้น 3 ซอง, เครื่องกระสุนปืน เบอร์ 12 จำนวน 29 นัด, เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. 26 นัด, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 50 นัด, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 4S จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง, แท็บเล็ตยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง, โน้ตบุ๊กยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) 4 เครื่อง, แอร์การ์ด 1 อัน, เมมโมรีการ์ด 1 อัน, ฮาร์ดดิสก์บันทึกกล้องวงจรปิด 3 เครื่อง และพลุควัน (ไปร์ทบอมบ์) 5 อัน

มีรายงานว่า เป้าหมายที่ 8 เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายอุดมชัย นพสวัสดิ์ หรือแสนรัก ได้ขณะร่วมกันตรวจค้นที่พักในซอยรังสิต-นครนายก 33 พบพาหนะ ทะเบียน ชฐ 3822 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่หน้าที่พัก โดยนายอุดมชัยอ้างว่าซื้อต่อมาจากนายธีรชัย ผู้ต้องหาตามพื้นที่เป้าหมายที่ 1 ในราคา 30,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถทะเบียนปลอม และพบยาบ้า 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะด้านหลังคนขับ
loading...

ส่วนเป้าหมายที่ 9 ได้บุกเข้าตรวจค้นภายในลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ บริษัท เกรทติ้ง ฟอร์จูน คอนเทรนเนอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 10 หมู่ 12 ซอยสุขาภิบาล 6 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นที่เก็บซ่อนอาวุธเครือข่ายนายโกตี๋อีกแห่งหนึ่ง
ธีรชัยรับอาวุธเป็นของโกตี๋

จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณนี้มีตู้คอนเทนเนอร์อยู่กว่า 2,300 ตู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่นำมาเก็บไว้ และยังพบว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาฝากนานกว่า 1 ปีขึ้นไปเก็บเอาไว้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าทำการเปิดตู้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบดูด้านในว่ามีอาวุธสงครามซุกซ่อนไว้ตามที่ได้สอบสวนขยายผลมาหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรืออาวุธซุกซ่อนไว้แต่อย่างใด

มีรายงานว่า นายธีรชัยซึ่งถูกควบคุมตัวหลังตรวจค้นเป้าหมายจุดแรก ให้การว่าเป็นลูกเขยของบ้าน และมีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และระบุว่าอาวุธทั้งหมดที่ถูกยึดนั้นเป็นของโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี นำมาฝากไว้หลังจากการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ในปี 2553

loading...
"ต่อมาในช่วงที่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โกตี๋ได้ตั้งเวทีเครื่องเสียงชุมชนของกลุ่มเสื้อแดงที่อนุสรณ์สถานดอนเมือง จนเจ้าหน้าที่สั่งให้รื้อถอนเวที โกตี๋จึงนำอุปกรณ์ต่างๆ มาฝากไว้ที่หลังบ้าน โดยที่ตนเองไม่ทราบว่าของทั้งหมดมีอาวุธสงครามรวมอยู่ด้วย" นายธีรชัยกล่าว

รายงานแจ้งด้วยว่า บ้านหลังนี้เคยเป็นที่ตั้งสถานีวิทยุของกลุ่มเสื้อแดง ก่อนที่จะถูกปิดการออกอากาศในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในปี 2557 ส่วนโกตี๋ได้หลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากถูกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูงจนกระทั่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธีรชัยไปสอบสวนเพื่อขยายผลหาที่มาของอาวุธสงครามที่ยึดได้ดังกล่าว ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยถึงปฏิบัติการตรวจค้นนี้ว่า เบื้องต้นได้รับทราบรายงานการปฏิบัติการแล้วว่าพบสิ่งผิดกฎหมาย อาวุธหลายชนิด แต่ยังไม่ทราบว่าแต่ละชนิดมีจำนวนเท่าใด รวมถึงยังพบเอกสารที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองอีกด้วย ต้องรอเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนสืบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ว่าอาวุธดังกล่าวและกลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าของมีเป้าหมายอย่างไร หรือจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ไปป่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ขู่ปองร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนก็จะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ต.ต สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 เผยว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปควบคุมและซักถามโดยละเอียดในที่แห่งหนึ่งแล้ว ขณะที่ตำรวจ สภ.คูคต ตรวจสอบของกลางทั้งหมด ก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.

คสช.เชื่อไม่กระทบปรองดอง

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติตรวจค้นตามกรอบนโยบายและคำสั่ง ของหัวหน้า คสช. ที่มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง ดำเนินการกวาดล้างจับกุมสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธสงครามที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ และนำไปใช้ก่อเหตุความรุนแรงต่างๆ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไป ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า อาวุธสงครามจำนวนดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดถึงแหล่งที่มา เส้นทางการนำเข้ามาในพื้นที่ ผู้สนับสนุน และเป็นอาวุธที่เคยใช้ก่อเหตุกรณีใดมาบ้าง หรือมีความเชื่อมโยงกับบุคคลใดหรือกลุ่มใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้พิสูจน์ทราบ และมาเรียนชี้แจงในโอกาสต่อไป

"ปฏิบัติการนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุยสร้างความปรองดองแต่อย่างใด เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่จะทำให้สุจริตชนรู้สึกอบอุ่นใจ และมั่นใจที่เจ้าหน้าที่รัฐสร้างความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนไม่ให้มือที่สามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นได้" ทีมโฆษก คสช.กล่าว

ทางด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมอาวุธที่ค้นพบถึงเยอะ เป็นเรื่องยากที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะการรัฐประหารก็ผ่านมาหลายปีแล้ว อาวุธไม่น่าหลงเหลืออยู่ได้ ดูไม่น่าเชื่อถือ กระทบต่อการสร้างความปรองดองแน่นอน ทำให้มีการคิดมากต่อกันกับกระแสข่าวที่มีการประดังเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือกรณีธรรมกายที่อยู่ๆ คดีก็เพิ่มขึ้นกะทันหันกว่า 300 คดี

นพ.เชิดชัยกล่าวว่า กระแสข่าวพวกนี้ทำให้คนสับสน สงสัยว่ามีอะไรทำอะไรกันรึเปล่า เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนสับสนไม่สบายใจ ในส่วนของคนเสื้อแดงก็อยู่กันตามปกติ พอไปค้นบ้านโกตี๋บอกมีธงแดงอะไรอย่างนี้ เหมือนเป็นการปลุกกระแสในแง่อคติ ซึ่งไม่ดี จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ไม่ดี เศรษฐกิจปัญหาปากท้องแย่อยู่แล้ว เจอข่าวอย่างนี้คงไม่สบายใจ ทำสังคมสับสน ไม่ต้องตีข่าวมาก จะเป็นจริงไหมที่อาวุธมากมายขนาดนั้น

เหวงกังขายัดเยียด นปช.

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนไม่เคยติดต่อ ไม่เคยโทร.หา และไม่เคยประชุมร่วมกันกับนายโกตี๋ ถ้าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องไปสืบสวนข้อเท็จจริง ขออย่าสร้างเรื่อง อย่ายัดเยียดความผิดให้ใคร

"แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมรัฐบาลมาค้นเอาตอนนี้ ทั้งที่มันผ่านมาแล้วสามปี ทำไมเพิ่งจะมาค้นตอนนี้ แกนนำนปช.เราไม่สนับสนุนความรุนแรง และถ้าจะมาบอกว่าเป็นแกนนำ นปช. ก็ควรที่จะแยกเยะด้วย เพราะว่านายโกตี๋ไม่ใช่ นปช. เพราะเขาเคลื่อนไหวในแนวทางที่รุนแรง ซึ่งไม่ใช่แนวทางเดียวกันกับ นปช. ดังนั้นนายโกตี๋ไม่ใช่นปช. เขาอาจจะใส่แค่เสื้อสีแดง และก็โปรดอย่าเหมารวมว่าเป็นแกนนำ นปช.ด้วย" นพ.เหวงระบุ

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักนายโกตี๋เป็นการส่วนตัว ไม่สนิทและไม่เคยพูดคุยแบบผูกพัน เพราะเราอยู่กันคนละที่ และเรื่องดังกล่าวก็เป็นเรื่องส่วนตัวของนายโกตี๋

ส่วนนายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. กล่าวว่าไม่เคยติดต่อกับนายโกตี๋นานแล้ว ไม่สนิทกัน และไม่มีเบอร์ส่วนตัว เพราะไม่ใช่แกนนำ นปช.ส่วนกลาง จึงไม่สนิท ต่างคนก็ต่างเคลื่อนไหว และนายโกตี๋ก็ไม่ค่อยมาร่วมชุมนุมกับเรา เราจึงไม่มีอะไรยุ่งเกี่ยวกัน

loading...
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า อาวุธสงครามที่ยึดได้จากบ้านโกตี๋ค่อนข้างมั่นใจว่าส่วนหนึ่งเป็นอาวุธที่สูญหายไปจากราชการ ในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดม็อบเสื้อแดง และคาดว่ายังมีซุกซ่อนไว้อีกหลายจุด เพราะอาวุธสงครามที่ถูกปล้นไปนั้น นับรวมกันแล้วมากกว่า 1,000 กระบอกทั่วประเทศ มีทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนอาก้า ปืนลูกซอง ปืนทราโว่ของอิสราเอล ก็ถูกปล้นไปด้วย ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เคยให้การในคณะอนุกรรมาธิการสอบสวนเรื่องชายชุดดำของสภาผู้แทนราษฎร ได้ยอมรับว่ากลุ่ม นปช.ได้นำอาวุธไปจริง และตนเองยินดีที่จะช่วยติดตามกลับคืน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด

นายวัชระกล่าวด้วยว่า ได้ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกราบขอร้องให้ช่วยติดตามอาวุธปืนเหล่านี้กลับสู่ราชการ เพราะหากอยู่ในการครอบครองของโจร ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในที่สุด

"เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อเสนอเรื่องการปรองดองของ นปช. เขียนได้หลายสิบหน้า ครอบจักรวาล แต่ไม่มีคำว่าสำนึกผิด และจะนำอาวุธสงครามที่ยึดไปพร้อมเครื่องกระสุนนำมาส่งคืนให้กับทางราชการแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการปรองดอง ถ้าไม่คืนอาวุธก็ไม่ต้องพูดกันเรื่องการปรองดองเลยดีกว่า" นายวัชระ กล่าว.
www.thaipost.net

online